ซักพ่อเลี้ยง คลี่คดีโทรม”ดญ.14″ ยื่นศาลพังงาขอหมายจับ11ราย สาวถูกพาดพิงรุดแจ้งความตร. พาเหยื่อพบแพทย์เยียวยาจิตใจ
loading...

ตร.ขอศาลพังงา ออกหมายจับผู้ต้องสงสัย รุมโทรมเด็กหญิงจำนวน 11 ราย หลังลงพื้นที่เกาะแรด รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม พาตัวเหยื่อสาวกับแม่ ตรวจสุขภาพจิต พบเหยื่อสาวเครียดน้อยลง ไม่ร้องไห้กลางคืนแล้ว ญาติพา หญิงสาวอีกรายที่ถูกให้การพาดพิงว่าโดนข่มขืน แจ้งความตำรวจเอาผิดคนให้ข้อมูล เจ้าของขนำริมทะเลปฏิเสธลั่นไม่รู้เรื่อง ท้าตร.มาตรวจดีเอ็นเอ ขณะที่ชาวบ้านที่ถูกพาดพิงทั้ง 40 คน ยังอยู่ในหมู่บ้านไม่มีใครหลบหนีไปไหน
จากกรณี น.ส.บี (นามสมมติ) วัย 16 ปี ถูกกลุ่มชายหลายสิบรายรุมโทรม เหตุเกิดในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านเกาะแรด ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อเดือนพ.ค. ปี”59 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนพ.ย.ปีเดียวกัน ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวยังเป็นเด็กหญิงวัยเพียง 14 ปีเศษเท่านั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต ได้สอบถามข้อมูลจาก น.ส.บี จนทราบว่า นอกจากวัยรุ่น 3 คนที่ถูกจับกุมส่งอัยการฟ้องไปแล้ว ยังมีชายในหมู่บ้านอีกหลายสิบคนที่ร่วมก่อเหตุข่มขืนด้วย จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.กิตติภูมิ ถิ่นกลาง สารวัตร (สอบสวน) สภ.โคกกลอย จ.พังงา เพื่อหาตัวกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่ง โดยคาดว่าจะมีคนร่วมก่อเหตุอีกกว่า 40 คน ขณะที่เหยื่อให้การว่ากลุ่มชายฉกรรจ์บังคับให้เสพยาก่อนลงมือ และยังมีเหยื่อสาวอีก 2 คนถูกข่มขืนด้วย ขณะที่โฆษกตร.ระบุรู้ตัวแล้วอีก 4-5 คน โดยอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ขณะที่เด็กหญิงที่ถูกน.ส.บี ผู้เสียหายพาดพิงว่าถูกรุมโทรมด้วย ออกมาปฏิเสธไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอ้าง ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้ผลการสืบสวนสอบสวน และพยานหลักฐานที่มีอยู่ มีความคืบหน้าไปอย่างมาก แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ
วันเดียวกันนายสนิท สร้างเมือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเกาะแรดเผยว่า ชาวบ้านที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรุมโทรมครั้งนี้ทั้ง 40 คน ยังใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตามปกติ ไม่มีผู้ใดหลบหนีออกไปจากพื้นที่ เชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะเผชิญความจริง หากมีหมายเรียกจากตำรวจก็จะไปพบ และให้การตามความเป็นจริง ตนทราบว่าตำรวจจะนำตัวครอบครัวผู้เสียหายไปแยกสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยตำรวจยังเชื่อว่ามีคนในหมู่บ้านร่วมกันรุมโทรมเด็กจริง แต่จะเป็นจำนวน กี่คนต้องดูจากพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก ครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.พังงา รายงานว่า ญาติและผู้ปกครองนำตัว น.ส.ซี(นามสมมติ) ซึ่งถูกพาดพิงว่า เป็น 1 ใน 2 คน ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นและผู้ชายในหมู่บ้านข่มขืน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.โคกกลอย เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่สร้างความเสียหายให้กับน.ส.ซีและครอบครัว โดยน.ส.ซี กล่าวว่า รู้จักกับน้องวัย 14 ปีจริง แต่ก็รู้จักกันแค่เพื่อนบ้านคนหนึ่งเท่านั้น และก็ไม่เคยไปเที่ยวไหนมาไหนด้วยกัน ส่วนวัยรุ่นในหมู่บ้านก็ไม่เกเรถึงขนาดที่เขาพูดถึง ในขณะที่เด็กสาวอีกรายที่ถูกพาดพิงก็ไม่ได้เข้ายุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด เขาไปเรียนหนังสืออยู่ที่ภูเก็ต
ด้านหนุ่มวัย 30 ปี เจ้าของขนำริมทะเล ที่ถูกพาดพิงว่ามามั่วสุมและร่วมรุมโทรมด้วย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีลูกสองคน มีครอบครัวแล้ว “เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องขี้หมาทั้งเพ ทำไมมีแต่แม่เด็กที่ออกมาเดินหน้าชน ทำไมไม่ให้ลูกสาวมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่จังหวัด ส่วนเรื่องขนำร้างริมทะเล ที่ถูกพาดพิงก็เป็นขนำที่เพิ่ง สร้างเมื่อปี”60 ซึ่งเมื่อปี”59 ที่เกิดเรื่อง ยังไม่มีเลย แล้วจะเกิดเหตุดังกล่าวได้อย่างไร ผมเชื่อมั่นว่าคนในหมู่บ้านไม่ได้กระทำตามที่พ่อบุญธรรมเด็กหรือแม่เด็กกล่าวหาเลย กล้าให้ตำรวจหรือหมอมาตรวจดีเอ็นเอได้ทุกเวลา” หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหากล่าวอย่างมีอารมณ์
ขณะที่นายมิน(นามสมมติ) อายุ 69 ปี หนึ่งในผู้ต้องสงสัยอีกรายเปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยความเครียดว่า ตนเองอยากจะฆ่าตัวตายหรือวิ่งหนีให้ตำรวจยิงให้ตาย เพราะอายที่โดนถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ไปรุมโทรมหลานวัย 14 “เรารู้จักกันมานานแล้ว ผมขายหน้า คนในหมู่บ้านเกาะแรดอายจนไม่รู้จะทำอย่างไรกันแล้ว วอนขอให้สังคมเข้าใจในการกระทำของครอบครัวนี้นะครับ ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องที่น่าจะกุข่าว กุเรื่องขึ้นมามากกว่า” นายมีนกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านแหล่งข่าวระดับสูงในจังหวัดพังงา เผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวพ่อเลี้ยงของน.ส.บี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพังงา เนื่องจากถูกเพื่อนบ้านพาดพิงว่ามีความใกล้ชิดกับเด็กหญิงผู้เสียหายเกินกว่าปกติทั่วไป ก่อนนำตัวไปสอบ สวนเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งหลังลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนจะขออนุมัติศาลจังหวัดพังงาออกหมายจับผู้ต้องสงสัยจำนวน 11 ราย ส่วนความเคลื่อนไหวของชุดสหวิชาชีพนำน.ส.บีและมารดาไปตรวจสุขภาพจิตใจที่โรงพยาบาลตะกั่วป่าอีกครั้ง โดยพบว่าน.ส.บีมีอาการเครียดน้อยลง ไม่หวาดผวาไม่นอนร้องไห้ตอนกลางคืน ขณะที่ฝ่ายมารดายังมีอาการเครียด ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาพร้อมแนะนำการปฏิบัติตัว โดยทั้งหมดยังอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพอย่างใกล้ชิด
Comments
Post a Comment